ความสำคัญของการทดสอบโฟมดับเพลิงเข้มข้น ที่จำเป็นต้องทดสอบทุกปี ตามNFPA กำหนด

โฟมดับเพลิงเข้มข้น (Foam Concentrate) ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบดับเพลิงที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี คลังเก็บเชื้อเพลิง สนามบิน และอุตสาหกรรมขนส่งสารไวไฟต่าง ๆ หากโฟมเข้มข้นเสื่อมสภาพหรือสูญเสียคุณภาพ จะส่งผลให้การควบคุมและดับไฟไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงทั้งด้านชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น การทดสอบโฟมดับเพลิงเข้มข้น (Foam Concentrate Testing) และการทดสอบโฟมร่วมกับอุปกรณ์ฉีดโฟม (Foam Solution Testing) จึงเป็นวิธีการสำคัญในการ ยืนยันคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ ของระบบดับเพลิงทั้งหมด

การทดสอบโฟมเข้มข้น (Foam Concentrate Testing) ตาม NFPA 11

มาตรฐานสากล NFPA 11 (Standard for Low-, Medium-, and High-Expansion Foam) ได้กำหนดแนวทางการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพของโฟมเข้มข้น เพื่อประเมินว่าโฟมยังคงคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ตรงตามที่ผู้ผลิตกำหนด

ขั้นตอนและหัวข้อการทดสอบหลัก ได้แก่

1. การวิเคราะห์ค่าความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity / Density)
   เพื่อยืนยันว่าโฟมมีความเข้มข้นตรงตามสูตรและไม่มีการเสื่อมสภาพ

2. การทดสอบค่า pH
   ตรวจสอบความเป็นกรด-ด่าง ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานและประสิทธิภาพของโฟม

3. การตรวจสอบความหนืด (Viscosity Test)
   สำคัญสำหรับโฟมชนิด AR-AFFF และ High Viscosity ที่ต้องการค่าความหนืดคงที่เพื่อใช้งานใน Proportioner

4. การวัดปริมาณสารเคมีสำคัญ (Chemical Composition)
   เช่น Fluorine Free Foam, AFFF, AR-AFFF เพื่อยืนยันว่าโฟมตรงตามชนิดและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม

5. การทดสอบประสิทธิภาพการดับไฟในห้องปฏิบัติการ (Fire Performance Test)
   เพื่อประเมินการสร้างฟองโฟมและการครอบคลุมเปลวไฟ

ความน่าเชื่อถือของผลการทดสอบ

• ห้องทดสอบที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025

• รายงานผลสามารถ ส่งตรงถึงผู้ผลิตโฟม เพื่อยืนยันคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

การทดสอบโฟมเข้มข้นกับอุปกรณ์ฉีดโฟม (Foam Solution Testing) ตาม NFPA 11 และ NFPA 25

แม้โฟมเข้มข้นจะมีคุณภาพดี แต่หากระบบการผสมโฟม (Proportioner, Foam System) ทำงานผิดพลาด ก็อาจทำให้โฟมไม่สามารถควบคุมไฟได้จริง การทดสอบโฟมเข้มข้นกับอุปกรณ์ฉีดโฟม (Foam Solution Testing) จึงจำเป็นอย่างยิ่ง

ขอบเขตการทดสอบ

1. ทดสอบสัดส่วนการผสม (Proportioning Accuracy Test)
   ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ผสมโฟมสามารถดึงโฟมเข้มข้นในอัตราที่ถูกต้อง เช่น 1%, 3%, หรือ 6%

2. การทดสอบคุณสมบัติฟองโฟม (Foam Quality Test)

3. ทดสอบในสภาพการทำงานจริง (Field Testing)
   เพื่อยืนยันว่าเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ระบบสามารถสร้างโฟมที่มีคุณภาพและครอบคลุมได้จริง

มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

• NFPA 11 : สำหรับการออกแบบและทดสอบโฟมดับเพลิง

• NFPA 25 (Standard for the Inspection, Testing, and Maintenance of Water-Based Fire Protection Systems) : สำหรับการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบดับเพลิง

ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการทดสอบโฟม

• ความปลอดภัยสูงสุด : มั่นใจว่าระบบสามารถใช้งานได้จริงเมื่อเกิดเหตุ

• เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล : ลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธประกันภัยหรือการตรวจสอบด้านความปลอดภัย

• การลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว : การตรวจสอบเป็นประจำช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

• ความน่าเชื่อถือขององค์กร : โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มพลังงาน เคมี และการบิน

ขอรายละเอียดเพิ่มเติม 

สนใจติดต่อ : 02-652-7831-8, 02-255-5610-9

Email : marketing@nippon.co.th

ID LINE : @nipponchemical 

หรือคลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน https://lin.ee/2VX1vfN

Nippon Chemical Facebook : https://www.facebook.com/Nipponchemical/